ปรับวิธีขับ ประหยัดทันที
- ลดน้ำหนักบรรทุกให้ได้มากที่สุด
- ลมยางเหมาะสม ลมยางอ่อน 3 ปอนด์ ยางหนึดทำให้กินน้ำมันเพิ่ม 1-2%
- หมั่นเช็คเครื่อง/เช็ครถ ทุกๆ 1,000 กม. ประหยัดได้ 5 ลิตร
- หากหยุดเกิน 15 วินาที ให้ดับเครื่องทันที หากยังติดเครื่องไว้ทุกๆ 3 นาที ใช้น้ำมันไป 100 ซี.ซี. เท่ากับระยะทาง 1 กม.
- เปลี่ยนเกียร์สูงทันทีเมื่อเครื่องยนต์ทำงานถึง 2,500 รอบ/นาที
- หลีกเลี่ยงการเบรคอย่างรุนแรง “เบรคบ่อย ปล่อยคลัทช์-คันเร่งช้า ระยะทางหาย” “การปล่อยไหล ประหยัดกว่าปลดเกียร์ว่าง”
- ใช้ความเร็วคงที่ 90 กม./ชม. หรือที่ 1,800 รอบ/นาที จะประหยัดและได้ประโยชน์สูงสุด หากใช้ความเร็วที่ 110 กม./ชม. จะทำให้กินน้ำมันมากกว่า 25%
- เปิดแอร์ตลอดทำให้กินน้ำมันอีก 10%
- รถเกียร์อัตโนมัติกินน้ำมันกว่าเกียร์ธรรมดา 10%
- น้ำมันเครื่องแพงดีๆ ช่วยการประหยัดได้ 5-10%
เทคนิคการขับรถแบบประหยัดน้ำมัน
1. เลือกใช้รถให้เหมาะกับสภาพการใช้งาน อันนี้ในกรณีที่ ถ้าที่บ้านของคุณมีรถยนต์ให้เลือกใช้มากกว่า 1 คัน
2. อย่าได้พยายามคิดประหยัด โดยใช้วิธีเข้าไปนั่งเบียดเสียด แบบจับคนทั้งบ้านยัดเข้าไปเหมือนอัดปลากระป๋อง … เพราะการทำเช่นนั้น นอกจากจะทำให้รถคันดังกล่าวต้องแบกรับน้ำหนักเกินภาระของเครื่องยนต์แล้ว ยังทำให้สิ้นเปลืองการใช้เชื้อเพลิงมากกว่าปกติ และเกิดการสึกหรอเร็วกว่าเดิมอีกด้วย
3. ควรเติมน้ำมันตามชนิดที่คุ่มือการใช้รถแนะนำ
4. เป็นไปได้ควรขับช้า ๆ และวิ่งชิดเลนซ้าย รวมทั้งใช้ความเร็วคงที่สม่ำเสมอ เช่นขับที่ประมาณความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. จะช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้ประมาณ 15-20% เลยทีเดียว
5. เลี่ยงการแตะเบรกอย่างรุนแรง การเหยียบเบรกแต่ละครั้งควรทำด้วยสัมผัสที่นิ่มนวล เพราะการขับรถอย่างกระโชกโฮกฮากมักทำให้ต้องแตะเบรกอย่างรุนแรงตามมา นอกจากเสี่ยงอันตราย ยังทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้นอีกถึง 25%
6. รถที่มีแอร์ควรเปิดแอร์… เชื่อหรือไม่ว่าการปิดแอร์แล้วขับรถไม่ได้มีผลต่อการประหยัดน้ำมันแต่อย่างใด เพราะการจะสิ้นเปลืองน้ำมันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ ประเภทของรถ และการใช้ความเร็วต่างหาก (แต่มียกเว้นไว้นิดนึงว่า ที่ความเร็วไม่เกินประมาณ 65 ไมล์/ชั่วโมง)
7.หลีกเลี่ยงเส้นทางรถติด อันนี้เป็นการรู้จักวางแผนที่ดีก่อนการออกเดินทางด้วย
8. เวลาเติมน้ำมัน ไม่ควรบอกเด็กปั๊มว่า “เต็มถัง” แต่ควรจะประมาณเป็นจำนวนเงินที่เกือบจะเต็มถังจะดีกว่า … เนื่องจากทุกครั้งที่เติมน้ำมันเต็มถัง นอกจากลิ้นหัวจ่ายน้ำมันจะถูกตัวเซ็นเซอร์สั่งปิดโดยอัตโนมัติ ยังมีการส่งน้ำมันที่ค้างในหัวจ่ายส่วนหนึ่ง ซึ่งผ่านการคิดเงินจากมิเตอร์แล้ว ย้อนกลับไปยังตัวปั๊มจ่าย ดังนั้นส่วนที่ค้างอยู่ในท่อจ่าย และถูกคิดเงินแล้ว จะถูกส่งคืนให้แก่ผู้ขาย
เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย หากเราทำได้ซัก 3 – 4 ข้อ แค่ปรับวิธีขับ ประหยัดทันที นอกจากจะสบายใจเรื่องมีส่วนช่วยประหยัดน้ำมันรถของเราแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกนะครับ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก www.buyatsiam.com