5 สัญญานเตือน! เมื่อผ้าเบรคมีปัญหา
ผ้าเบรค เป็นส่วนประกอบของรถยนต์ที่ใช้ในการชะลอ หรือทำการเหยียบเบรค ที่ต้องหมั่นตรวจเช็คบ่อยๆ เพราะส่งผลต่อความปลอดภัยในการใช้งานโดยตรง ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ เรามาสังเกตุอาการต่างๆที่บอกว่าผ้าเบรคเริ่มมีปัญหา
สังเกตอาการว่าควรเปลี่ยนผ้าเบรคเมื่อไหร่
1.มีเสียงดังเวลาเหยียบเบรค
เกิดจากมีเศษฝุ่น เศษหินเข้าไปติดขัดระหว่างจานเบรกกับแผ่นโลหะระบายความร้อน ส่งผลให้เกิดเสียงดังเวลาเหยียบเบรค
2.มีสัญญาณไฟเตือนแสดงหน้าปัด
เมื่อมีสัญญาณผ้าเบรกขึ้นเตือนแล้ว ควรรีบนำรถยนต์ไปเข้าศูนย์บริการซ่อมทันที
3.ปริมาณน้ำมันเบรกต่ำกว่าปกติ
ตรวจสอบน้ำมันเบรก โดยตรวจเช็คที่กระปุกน้ำมัน และตรวจสอบว่าสายเบรกขาดรั่วหรือไม่ ถ้าหากน้ำมันเบรกหมดหรือรั่ว จะทำให้ผ้าเบรคไม่ทำงาน
4.เหยียบเบรกได้ไม่สุด
เหยียบเบรกลึกกว่าปกติหรือเหยียบเบรคค้างแล้วแป้นเบรคค่อยๆจมลง ถ้าหากมีอาการนี้ควรนำรถเข้าศูนย์บริการทันที ผ้าเบรครถยน์อาจจะหมดสภาพการใช้งาน
5.ตรวจเช็คผ้าเบรกทุก 3 เดือน
ผ้าเบรกจะมีอายุการใช้งาน 30,000-50,000 กิโลเมตร และขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละค
วิธีการดูแลรักษาระบบเบรค
1.ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรคอย่างน้อยปีละครั้ง
2.เช็คระยะห่างผ้าเบรค
3.ตรวจสอบผ้าเบรคว่ามีการสึกหรือไม่
4.นำไปตรวจเช็คระบบเบรกทุกๆ 3 เดือน หรือเมื่อขับรถไปได้ 8,000-10,000 กิโลเมตร
5.เปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ และต้องระมัดระวังการเหยียบเบรกมากกว่าเดิม
การดูแลรักษารถยนต์และเปลี่ยนผ้าเบรค ช่วยทำให้เครื่องยนต์ได้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการขับขี่รถอย่างปลอดภัยบนท้องถนน เพราะฉะนั้นควรหมั่นตรวจสอบผ้าเบรคเบื้องต้น เมื่อผ้าเบรคมีปัญหาและสังเกตอาการเหล่านี้
เพื่อลดการเกิดความสียหายของรถ ค่าใช้จ่ายบานปลายได้ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือการเลือกใช้ชนิดผ้าเบรกแท้ มีคุณภาพ เพราะจะทำให้ผ้าเบรกจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขี้น หรือเข้าเช็คในอู่ซ่อมบริการที่ได้มาตรฐาน หรือใกล้บ้านท่าน