7 สัญญาณ ที่บ่งบอกว่ารถคุณต้องการการดูแล

pic4

ปัจจุบันเรายังต้องยอมรับครับว่าหลายคนที่ใช้รถไม่ค่อยรู้จักการดูแลรถอย่างถูกวิธี หลายครั้งที่เราพบว่ารถหลายคันภายนอกดูดีแต่กลับ มีสภาพเครื่องยนต์ที่ไม่สู้ดีนัก วันนี้จะมาพูดคุยกันในเรื่องหลากปัญหาของรถ ที่คุณอาจจะสามารถรับรู้ได้และทำให้ป้องกันปัญหาก่อน ที่จะลุกลามจนสร้างความเสียหายให้กับรถสุดที่รักของคุณ สำหรับงานนี้ผู้อ่านอาจต้องใช้การสังเกตสักเล็กน้อย แต่แน่นอนว่าบางครั้งคุณก็อาจจะรู้อยู่แล้วเพียงแต่ไม่ทราบว่ามันมีปัญหาจากส่วนใด วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักหลากอาการเริ่มต้นต่างๆ ที่บ่งบอกว่ารถคุณต้องการการดูแลกันครับ

  • อาการที่ 1 สตาร์ทเครื่องนานกว่าปกติ ทันทีที่เราขึ้นรถแล้วบิดกุญแจเชื่อหรือไม่ครับว่า แม้แต่เสียงสตาร์ทนั้นยังบอกความเป็นสุขของรถท่านได้ โดยปกติแล้วการสตาร์ทเครื่องยนต์นั้นจะใช้การถีบตัวไม่เกิน 3 ครั้งใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที ถ้านานกว่านั้นแสดงว่ารถเริ่มมีปัญหา ซึ่งโดยปกติหมายถึงแบตเตอร์รี่อาจจะเริ่มเสื่อมสภาพ ยิ่งถ้ารถคุณเริ่มเข้าปีที่ 2-3 เมื่อไรแล้วสตาร์ทช้า เตรียมเงินถอยแบตเตอร์รี่ลูกใหม่ได้เลยหากปล่อยทิ้งไว้ อาจจะพาลทำให้ไดสตาร์ทพังไปด้วย
  • อาการที่ 2 พบร่องรอยน้ำมัน บางครั้งเมื่อคุณจอดรถแล้ว พบรอยน้ำมันหยดเป็นทางนั้น หรือเป็นจุดนั้นอย่าวางใจโดยเด็ดขาด เพราะตามปกติแล้วน้ำมันจะไม่สามารถหยดได้เอง นอกจากเกิดความ เสียหายต่อระบบนั้นๆ ซึ่งหมายถึงต้องมีอะไรผิด ปกติแล้ว ถ้าพบข้อนี้ ให้รีบตรวจสอบด่วน หรือนำไปเข้าศูนย์ทันที
  • อาการที่ 3 เสียงที่ผิดปกติ ในหัวข้อนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ยากในการสังเกตในระหว่างขับรถแต่คุณสามารถสังเกตได้ เมื่อรถจอดหรือเดินเบาเครื่องยนต์ก่อนขับออกถนน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการทำงานของเครื่องยนต์จะไม่มีเสียงผิดแปลก โดยเฉพาะ**เสียงเหล็กกระทบกัน หรือทางศัพท์ช่าง เรียกว่า “เสียงน๊อก” (Knocking) ซึ่งหากท่านได้ยินเสียงดังกล่าว และไม่เคยได้ยินมาก่อนนั้น ให้รีบไปหาผู้เชี่ยวชาญทันที แต่ทางที่ดีอันนี้อยากแนะนำบันทึกเสียงนั้นไว้ก่อน โดยอาจจะถ่ายคลิป เพื่อใช้ประกอบในการอธิบายปัญหา เพราะหลายเหตุการณ์ ตอนอยู่กับเรามีเสียง พอไปถึงช่างเสียงหายไปเฉยๆซะก็มี เอาเป็นว่าตอนซื้อรถมาใหม่ๆหมั่นฝึกสังเกตฟังเสียงไว้ นั่นคือเสียงเครื่องยนต์ปกติ หากวันไหนที่เสียงมันผิดเพี้ยนไปจากเดิมที่เคยได้ยินมา ให้รีบสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า น่าจะมีอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์เข้าแล้ว
  • อาการที่ 4 ควันขาวออกท่อ จงจำไว้ว่ารถที่ดีนั้นต้องไม่มีควันขาว และเมื่อไรก็ตามที่รถของท่านมีอาการควันสีขาวออกท่อ พร้อมกลิ่นฉุน นั่นหมายถึงต้องมีสิ่งที่ผิดปกติกับระบบเครื่องยนต์ ซึ่งหากชี้ชัดไปนั้นมันจะมีหลายอาการมาก แต่เอาเป็นว่าถ้าเห็นแล้วรีบไปหาช่างดีกว่านะ
  • อาการที่ 5 ขับรถแล้วดูนุ่มนวลผิดกว่าปกติ คุณขับรถแล้วรู้สึกว่ามันนิ่มนวลผิดปกติไปจากที่เคยใช้มาหรือไม่ ถ้าคำตอบคือ “ใช่” แสดงว่ารถคุณมีความเป็นไปได้ใน 2 ทาง คือ 1 ลมยางอ่อน บางครั้งอาจจะหมายถึงยางรั่ว กับ 2 ระบบช่วงล่างบางชิ้นเสื่อมสภาพ โดยมากคือสปริง หรือโช๊ค เพราะรถที่ปกติจะไม่นิ่มนวลมากจนรู้สึกผิดปกติ เพราะการเซ็ตช่วงล่างหรือขนาดลมยางที่เหมาะสมจะทำให้รถกระด้างและสะเทือนเล็กน้อย เพื่อการบรรทุกที่ดีและการยึดเกาะถนน
  • อาการที่ 6 เสียง อี๊ดๆ ตอนเบรค ในข้อนี้หลายคนอาจจะบอกว่ามันเป็นอย่างไร แต่เอาเป็นว่าเมื่อคุณกดเบรกแล้ว ได้ยินเหมือนเสียงหนูร้องอยู่ในรถ อาจจะด้านหน้าหรือ ด้านหลังล่ะก็ หมายถึงผ้าเบรกที่ใช้อยู่กำลังหมดอายุการใช้งาน อย่ารอช้า รีบไปเปลี่ยนผ้าเบรก โดยด่วนก่อนที่มันจะทำความเสียหายต่อชุดจานเบรคของรถคุณ
  • อาการที่ 7 รถเร่งแล้วอืดกว่าเดิม ถ้าเมื่อไรรถคุณเร่งแล้วรู้สึกว่าไม่พุ่งเหมือนเดิมนั้น แต่ไม่มีความผิดปกติอย่างอื่นเช่นรอยน้ำมัน นั่นหมายถึงรถคุณนั้น อาจจะต้องการการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้ว แต่หากถ่ายมาแล้วและยังวิ่งอืดอยู่ ก็จะมีอีก 2 ตัว คือ 1.กรองน้ำมันเชื้อเพลิง และ 2. กรองอากาศ ซึ่งอาการรถมีอัตราเร่งถอยนี้มีผลโดยตรงต่ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงครับ
ทั้ง 7 ข้อนี้เป็นสิ่งที่คุณจะพอสามารถสังเกตในระหว่างการขับขี่หรือใช้งานโดยทั่วไป ซึ่งทันทีที่คุณพบอาการต่างๆเหล่านี้ จงอย่าวางใจรับไปพบผู้เชี่ยวชาญหรือเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบหาปัญหาโดยทันทีนะครับ

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.