Mercedes-Benz E-Class 2016 เปิดตัวอลังการ หรูหรา ราคาไม่แรง

f18

เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส ใหม่ (Mercedes-Benz E-Class 2016) เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในงานดีทรอยต์ ออโต้ โชว์ 2016 กับ 3 ระดับการตกแต่ง Exclusive, Avantgarde และ AMG Line พร้อมกับเครื่องยนต์ 2 รุ่น ทั้งเบนซิน (E 200) และดีเซล (E 200 d) ส่วนรุ่นอื่น ๆ จะทยอยตามมาภายหลัง

สิ้นสุดการรอคอยกันเสียทีสำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส ใหม่ ปี 2016 (Mercedes-Benz E-Class 2016) กับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานดีทรอยต์ ออโต้ โชว์ 2016 ซึ่ง E-Class ถือเป็นรถยนต์รุ่นหลักของ Mercedes-Benz ด้วยขนาดกำลังพอดี เพราะ C-Class นั้นอาจเล็กหรือคับแคบไปสักนิด

ส่วน S-Class ก็ใหญ่เกินไปหน่อย อย่างไรก็ตามหลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า Mercedes-Benz E-Class 2016 ใหม่ จะมีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างไปจาก C-Class และ S-Class ที่ออกมาก่อนหน้านี้มากนัก

E 350 e, EXCLUSIVE, kallaitblau, Leder sattelbraun/macciato E 350 e, EXCLUSIVE, callait blue, leather saddle brown/macciato

Mercedes-Benz E-Class ใหม่ จะแบ่งการตกแต่งออกเป็น 3 ระดับคือ

เอ็กซ์คลูซีฟ (Exclusive) เน้นความหรูหราจะใช้กระจังหน้าขนาดใหญ่ตามแบบพื้นฐาน ซึ่งติดตราดาวสามแฉกไว้บนฝากระโปรงหน้า

อาวองท์การ์ด (Avantgarde) จะออกแนวโมเดิร์น

เอเอ็มจี ไลน์ (AMG Line) จะเน้นความสปอร์ตด้วยกระจังหน้า มีตราดาวสามแฉกขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางคาดด้วยแถบโครเมียม 2 แถวเหมือนกัน

รายละเอียดปลีกย่อยจะต่างกันออกไปเล็กน้อย รวมถึงช่องดักอากาศบริเวณกันชนหน้าของ Avantgarde จะคาดยาวในแนวนอนคล้ายกับรุ่น Exclusive โดยมีแอร์แดมอยู่ตรงกลาง ส่วน AMG Line ซึ่งเป็นแนวสปอร์ตเต็มตัวจะแบ่งช่องดักอากาศขนาดใหญ่ออกเป็น 3 ช่องชัดเจน สำหรับทางด้านท้ายรถไม่แตกต่างกันมากนักแต่รุ่น Exclusive จะได้คิ้วโครเมียมคาดที่ชายกันชนเหนือท่อไอเสียคู่แยกสองฝั่งซ้ายขวาอย่างละหนึ่ง

Interieur sattelbraun/macciato Interior saddle brown/macciato

Interieur, Leder schwarz/sattelbraun Interior, leather black/saddle brown

ภายในห้องโดยสารของ Mercedes-Benz E-Class 2016 ใหม่ ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญอย่างหนึ่งด้วยการออกแบบที่หรูหราล้ำสมัยมีความใกล้เคียงรุ่นใหญ่อย่าง S-Class รวมถึงการใช้วัสดุตกแต่งคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นการประดับประดาด้วยลายไม้หรือโลหะทอลาย (ขึ้นอยู่กับระดับการตกแต่งที่เลือก)

พวงมาลัยที่ติดตั้งปุ่มสัมผัส Touch-Sensitive เพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องละมือจากพวงมาลัยเพื่อใช้ปุ่ม Command ทุกครั้ง (Command ปุ่มควบคุมอุปกรณ์และมัลติมีเดียบริเวณคอนโซลกลางของ Mercedes-Benz คล้ายกับ i-Drive ของ BMW) นอกจากนี้ยังมีระบบเครื่องเสียง Burmester 3D รอบทิศและไฟสร้างบรรยากาศ 64 เฉด (Ambient Light) ให้เลือกเป็นออปชั่น รวมไปถึงระบบอุ่นเบาะหรือจอแสดงผลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว

Interieur schwarz/macciato Interior black/macciato

Interieur sattelbraun/macciato Interior saddle brown/macciato

ในช่วงแรกของการเปิดตัว Mercedes-Benz E-Class นั้นจะมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น คือ E 200 ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาดความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิด 300 นิวตันเมตร

กับรุ่น E 200 d เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 195 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ที่ให้กำลัง 258 แรงม้า และแรงบิดสูงถึง 620 นิวตันเมตร

สำหรับรุ่น E 350 d จะตามออกมาภายหลัง เช่นเดียวกับรุ่น E 400 ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ที่ให้กำลัง 333 แรงม้า และแรงบิด 480 นิวตันเมตร

นอกจากนี้ในอนาคต Mercedes-Benz E-Class จะมีเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ที่ให้กำลัง 150 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ที่ให้ความแรงตั้งแต่ 183 แรงม้า ไปจนถึง 245 แรงม้า ให้เลือกใช้เพิ่มเติมเข้ามา โดยทุกรุ่นเครื่องยนต์จะได้ใช้เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ที่่เปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วว่องไว อีกทั้งยังช่วยให้ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับลูกค้าที่อยากได้ทั้งความแรงและประหยัดแต่ไม่ปลื้มกับเครื่องยนต์ดีเซล Mercedes-Benz E-Class 2016 ใหม่ จะมีรุ่น E 350 e Plug-in Hybrid ให้เลือกด้วยเช่นกัน ซึ่งจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแพ็กแบตเตอรี่ ให้กำลังรวมกัน 286 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร

E 350 e, EXCLUSIVE, kallaitblau, Leder sattelbraun/macciato E 350 e, EXCLUSIVE, callait blue, leather saddle brown/macciato

E 350 e, EXCLUSIVE, kallaitblau, Leder sattelbraun/macciato E 350 e, EXCLUSIVE, callait blue, leather saddle brown/macciato

ส่วนระบบกันสะเทือนของ Mercedes-Benz E-Class ใหม่ จะผสานความสบายและสปอร์ตรวมไว้ด้วยกันเพื่อการบังคับควบคุม (Handling) ที่คล่องแคล่วว่องไวโดยยังคงความสบายด้วยคุณภาพการขับขี่ (Ride Quality) ไว้สูงสุด

สามารถเลือกปรับได้ 3 รูปแบบคือ Comfort suspension เน้นความสบายนุ่มนวลสำหรับการเดินทาง, Comfortable Avantgarde suspension ความสูงของรถจะเตี้ยลง 15 มม. เพื่อเพิ่มความสปอร์ตในการขับขี่ และ Sporty suspension ซึ่งความสูงของรถจะเตี้ยลง 15 มม. แต่ผู้ขับขี่สามารถปรับความแข็งของแดมเปอร์ได้ตามต้องการ

E 220 d, AVANTGARDE, Night Paket, hyazinthrot, schwarz/macciato E 220 d, AVANTGARDE, Night Package, Hyazinth red, black/macciato

E 400 4MATIC, AMG Line, selenitgrau magno, Leder schwarz/sattelbraun E 400 4MATIC, AMG Line, selenit grey magno, leather black/saddle brown

นอกเหนือจากนี้ Mercedes-Benz E-Class ยังได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัยมาให้เพียบ เช่น Drive Pilot ที่ช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า ใช้ความเร็วสูงได้ถึง 210 กม./ชม. ระบบช่วยเบรก Active Brake Assist with cross-traffic function และระบบช่วยหลบหลีกสิ่งกีดขวาง Evasive Steering Assist รวมไปถึงของเล่นไฮเทคอย่าง Remote Parking Pilot system ที่สามารถสั่งให้รถเข้าจอดยังที่จอดรถได้ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน เป็นต้น สำหรับในเรื่องของราคาค่าตัวนั้นคงต้องรอให้ทาง Mercedes-Benz แจ้งอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามสาวกดาวสามแฉกคงต้องรอดู Mercedes-Benz E-Class 2016 ใหม่ ที่จะเปิดตัวในไทยกันอีกครั้งว่าจะจัดเต็มออปชั่นมาให้มากขนาดไหน แต่ที่แน่ ๆ ราคาของ E-Class ก็คงไม่เพิ่มสูงจากเดิมมากที่ราว ๆ 3.5-4.5 ล้านบาทครับ

Credit Content : Kapook.com
C
redit Photo : Daimler

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.